หลักประกันความเสี่ยงก่อนการลงทุน
อะไรที่มีผลตอบแทนที่สูงก็มักจะมาคู่กับความเสี่ยงที่สูงเสมอ การประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุน จะทำให้เรารู้ว่าเราสามารถรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน เหมาะที่จะลงทุนกับความเสี่ยงในระดับใด
ปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดในความสามารถของการรับความเสี่ยง ได้แก่
อายุ ของเราจะเป็นตัวกำหนดในการรับความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เช่น นักลงทุน วัย 20 ปี กับนักลงทุน วัย 80 ปี นักลงทุนอายุน้อยกว่าหรือ 20 ปี จะรับความเสี่ยงได้สูงกว่า เพราะมีโอกาสหาเงินชดเชยได้นานหรือมากกว่า เงินที่ขาดทุนไปได้ดีกว่า
ความมั่งคั่ง คือเงินทุน หากเรามีเงินในบัญชี 10 ล้านบาท ถ้าขาดทุน 100,000 บาท ก็ยังถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ไม่ถึง 1% ของเงินที่มีอยู่ในบัญชีด้วยซ้ำ จะเห็นได้ว่า คนที่มีความมั่งคั่งสูงจะ สามารถรับความเสี่ยงได้สูงกว่า
ภาระ ไม่ว่าจะเป็นภาระของบุคคลในครอบครัว ภาระหนี้สินต่าง ๆ เช่น เงินผ่อนรถ เงินผ่อนบ้าน ภาระเหล่านี้ จะเป็นตัวจำกัดความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุนทั้งสิ้น หากมีภาระค่อนข้างมาก ก็จะทำให้การรับความเสี่ยงของผู้ลงทุนลดลงไป เนื่องจากมีความจำเป็นที่จะต้องเผื่อไว้สำหรับภาระรายจ่ายต่าง ๆ เหล่านั้นนั่นเอง
ระยะเวลา หากผู้ลงทุนมีระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานกว่า มีโอกาสที่จะเผชิญความผันผวนได้มากกว่า นั่นคือหากเงินที่เราเอาไปลงทุน เป็นเงินที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้จ่ายที่จำเป็นหรือที่เรียกว่า ‘เงินเย็น’ เงินก้อนนั้น ก็จะสามารถรับความเสี่ยงได้มากขึ้น
ความรู้ หากเราเข้าใจในหลักทรัพย์หรือมีประสบการณ์มามากเท่าไหร่ จะทำให้ผู้ลงทุน สามารถเข้าใจความเสี่ยงและรับความเสี่ยงได้ดีกว่า และมากกว่า
จิตวิทยา การลงทุนจะมีความเครียดสูง มีความกดดันเกิดขึ้น ถ้าผู้ลงทุนเกิดความไม่สบายใจ รู้สึกกระวนกระวายใจเมื่อประสบกับภาวะขาดทุน จนเกิดอาการกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ลักษณะนี้ก็คืออาการรับความเสี่ยงได้น้อย วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นก็คือ ผู้ลงทุนควรลดความเสี่ยงโดยการลดขนาดเงินลงทุนในน้อยลง หรือเปลี่ยนไปลงทุนในรูปแบบอื่น เพื่อให้ตัวเองสบายใจมากขึ้น
ตัวกำหนด ทั้ง 6 ข้อ ที่ได้กล่าวมา คงพอที่จะสรุปได้ว่า ความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดังนั้น ทางแก้ก็คืออย่าลงทุนตามใคร ควรเลือกทำตามความเข้าใจของตัวเองจะดีที่สุด เพื่อให้สัมพันธ์กับระดับความเสี่ยงที่เราสามารถรับได้นั่นเอง