Forex คืออะไร

Forex คืออะไร

ฟอเร็กซ์ หรือ Forex หรือ Foreign Exchange คือ ตลาดกลางเพื่อทำการซื้อขาย แลกเปลี่ยนอัตราเงิน โดยมีราคาเงินที่แปรผันได้ตามอุปสงค์ และอุปทาน (demand และ supply) ของสกุลเงินแต่ละสกุล ซึ่งอาจมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่หลายอย่างทั้งสภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เงินฝาก อัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันในตลาดโลก ราคาขึ้นลงของทองคำ สภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ สถานการณ์ของบ้านเมือง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการประกาศตัวเลขสำคัญ ๆ เช่น ตัวเลขขึ้นลงของตลาดหลักทรัพย์

การเงินของโลกในสกุลเงินใหญ่ ๆ เช่น เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ (USD), ยูโร (EUR), ปอนด์สเตอร์ลิง (GBP), เยน (JPY) และหยวน ซึ่งเป็นเงินสกุลใหญ่ของประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเป็นเงินสกุลที่มีสภาพคล่องสูงมาก เนื่องจากมีผู้เล่นเป็นจำนวนมากและมีการหมุนเวียนแลกเปลี่ยน หรือเปลียนแปลงของราคาอยู่ตลอดเวลา ในอดีต ผู้เล่นเงินในตลาด Forex จะมีจำนวนจำกัดอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินใหญ่ ๆ เช่น ในธนาคาร หรือบริษัทประกันภัย แต่ในทุกวันนี้มีการเทรดทางอินเตอร์เน็ต หรือการเข้ามาของระบบออนไลน์ นักลงทุนรายย่อยทั้งหลายอย่างพวกเรา ก็สามารถที่จะเข้ามาลงทุนร่วมโดยเทรดด้วยการผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทโบรกเกอร์ได้ โดยเฉพาะโปรกเกอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทน หรือตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อ/ขายไปยังตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศได้ทันทีที่ได้รับคำสั่ง

ลักษณะเด่นของตลาด ฟอเร็กซ์ (Forex) อาจแบ่งออกได้หลายลักษณะดังนี้

  1. เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือตลาดที่หมุนเวียนเงินตรา ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราตลอด 24 ชั่วโมง หยุดเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดราชการเท่านั้น การซื้อขายแปลกเปลี่ยนจะเริ่มเปิดตลาดในตอนเช้าตามเวลาของประเทศออสเตรเลีย เอเชีย ยุโรปและมาจบวันทำการของอเมริกา
  2. มีสภาพทางการเงินที่คล่องตัวสูงมาก เนื่องจากจะมีคนเข้ามาเทรดหรือซื้อ ขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขาย และหมุนเวียนที่สูง เมื่อเทียบกับการลงทุนในแบบอื่น ๆ
  3. มีความเสี่ยงที่สูง เนื่องจากจะมีการแลกเปลี่ยนหมุนเวียนในอัตราเงินตราที่มีความอ่อนไหวมากกับปัจจัยหลายตัว และรอบตัว ซึ่งอาจนับได้ว่าเป็นโอกาสที่ดี ในการที่จะใช้ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว และระยะเวลาอันสั้น และในทางกลับกัน ก็อาจจะทำให้เกิดการขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
  4. สามารถที่จะทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง (ทั้งการซื้อ และการขาย) ในหนึ่งคู่สกุลเงิน นักลงทุนสามารถเปิดได้ทั้งสองสถานะคือการซื้อ หรือการขาย โดยให้เปิดสถานะซื้อหากคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้น และควรเปิดสถานะขายหากคาดการณ์ว่าราคาจะลดลง
  5. ใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่สามารถที่จะทำกำไรได้สูงสุดด้วย leverage แต่ในขณะเดียวกัน leverage ก็สามารถที่จะทำให้ขาดทุนได้สูงมากเช่นเดียวกัน
  6. ค่าธรรมเนียมการซื้อขายไม่มาก หรือเรียกว่าต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในประเภทอื่น และยังมีโบรกเกอร์จำนวนหนึ่งไม่คิดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายอีกด้วย โดยจะคิดค่าบริการที่เกิดขึ้นจากส่วนต่างของราคา bid / ask หรือที่เรียกกันว่า spread โดยคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากจะมี spread ที่แคบ